ฟอกไต ต้องเตรียมเงินไว้ปีละ กี่แสนบาท!!??
"ป่วยเป็นโรคไต หมอสั่งฟอกไตแล้ว!!!"
"ปัสสาวะบ่อย กลัวจะเป็นโรคไต กลัวต้องฟอกไต"
"ฟอกไตแพง จะเอาเงินที่ไหนมารักษา"
"เค้าบอกว่าฟอกไตแล้ว ต้องฟอกตลอดชีวิต ทำไงดี.."
ตัวช่วยเรื่องโรคไต ไม่ต้องฟอกไต
ยาน้ำสมุนไพรธนทร
สวัสดีค่ะ
วันนี้แอดมินมีเรื่องที่หลายๆคนกำลังปวดหัวกับค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้สำหรับคนที่ต้อง “ฟอกไต” มาฝากกันนะคะ
เพราะว่าสำหรับผู้ที่เป็นโรคไตที่ถึงขั้นคุณหมอให้ฟอกไตแล้ว คุณรู้ไว้เลยว่า คุณต้องฟอกไตไปตลอดชีวิต และแน่นอนสิ่งที่ตามมาก็คือเรื่องของค่าใช้จ่าย ที่ต้องบอกเลยว่าถ้าไม่มีเงินก็แย่แน่ๆ เลยนะคะ
แอดมินจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนและค่าใช้จ่ายต่างๆสำหรับการฟอกไตมาฝากค่ะ
การฟอกไต คือ
การฟอกไตคือกระบวนการนำเลือดออกจากร่างกายของผู้ป่วยมาทำให้สะอาดขึ้นโดยการใช้เครื่องไตเทียม เพื่อกำจัดของเสีย ปรับระดับเกลือแร่ในเลือด และปรับสมดุลของน้ำในร่างกายให้เป็นปกติ
ในผู้ป่วยโรคไตวายทั้งชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง
การฟอกไตคือเมื่อไตมีการทำงานล้มเหลว หรือเป็นโรคไตเรื้อรัง โรคไตระยะสุดท้ายที่ไตมีการกรองของเสียได้น้อย จึงจำเป็นจะต้องมีการฟอกไตโดยเครื่องฟอกไต
ที่จะช่วยกรองของเสียที่เป็นอันตราย เกลือ และน้ำส่วนเกินออกจากเลือด และนำเลือดที่ปกติหรือเลือดที่ผ่านการกรองแล้ว กลับเข้าไปในร่างกาย
นอกจากนี้ การฟอกไตยังช่วยในการรักษาระดับที่ปลอดภัยของสารเคมีบางอย่างในเลือด เช่น โพแทสเซียม โซเดียมไบคาร์บอเนต ที่ช่วยในการควบคุมความดันโลหิตให้คงที่
แต่ในโรคไตบางชนิด เช่น ไตวายเฉียบพลัน หลังได้รับการรักษาแล้วมีอาการดีขึ้น การฟอกไตจึงอาจมีความจำเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ จนกว่าไตจะมีการทำงานที่ดีขึ้น แต่สำหรับโรคไตวายเรื้อรังนั้น หากยังไม่มีการเปลี่ยนไตใหม่ จะต้องทำการฟอกไตไปตลอดชีวิต
ใครที่ควรได้รับการฟอกไต???
- ผู้ป่วยที่มีอาการไตวายเฉียบพลัน ซึ่งอาจต้องการฟอกเลือดเพียงไม่กี่ครั้ง เมื่อไตฟื้นตัวขึ้นจนทำหน้าที่ได้พอสมควร แล้วก็ไม่จำเป็นต้องฟอกไต
- ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ปัจจุบันผู้ป่วยเหล่านี้ เป็นกลุ่มใหญ่ที่ต้องได้รับการฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม ซึ่งต้องได้รับการฟอกไตตลอดชีวิต หรือจนกว่าได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนไตใหม่
- ผู้ป่วยหัวใจวายบางราย ซึ่งไม่สามารถรักษาด้วยยาได้ การฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม จะช่วยในการดึงน้ำและเกลือส่วนที่เกินออกจากเลือด ช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น
หลังฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม อาการคั่งของเกลือ และน้ำในร่างกายจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ภาวะเลือดเป็นกรดจะดีขึ้น
ส่งผลให้อาการบวม หอบ เหนื่อย ชัก กระตุก รวมไปถึงอาการคลื่นไส้ อาเจียนหายไป ทำให้ผู้ป่วยโรคไตสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง
การรักษาภาวะไตวาย
ถ้าโรคไตเรื้อรังอาการแย่ลงจนเกิดภาวะไตวาย มีแนวทางการรักษา 2 ทางคือ การฟอกไตกับการปลูกถ่ายไต การรักษานี้จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีและสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
การฟอกไต ต้องทำอย่างไร??
การฟอกไตเป็นการนำเอาของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากเลือดของผู้ป่วย การฟอกไตมี 2 ประเภท คือ การฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis)
และการฟอกไตทางช่องท้องแบบถาวร (continuous ambulatory peritoneal dialysis: CAPD)
1.การฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม
การฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis) เป็นการนำของเสียและน้ำออกจากเลือด โดยเลือดจะออกจากตัวผู้ป่วยทางเส้นเลือดดำ
แล้วผ่านตัวกรอง ซึ่งในตัวกรองจะมีเนื้อเยื่อที่จะช่วยกรองของเสียและน้ำออกจากเลือด เมื่อเลือดผ่านตัวกรองแล้วจะกลายเป็นเลือดดี เแล้วครื่องฟอกไตจะนำเลือดนั้นกลับสู่ร่างกาย
ในการฟอกเลือดแต่ละครั้งต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม. หรือมากกว่า และต้องทำการฟอกเลือดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกใช้บริการของสถานพยาบาลไหน แต่แอดมินก็ไปรวบรวมค่าใช้จ่ายโดยคร่าวมาให้นะคะ
ค่าใช้จ่ายในการฟอกเลือดด้ว
ฟอก 2 – 3 ครั้ง / สัปดาห์
เดือนละ 8 – 12 ครั้ง / เดือน
รวมเป็นเงินเดือนละประมาณ 400,000 บาท / ปี
ก่อนการฟอกไตต้องทำการตัดต่อเส้นเลือดเพื่อใช้ในการฟอกไต ซึ่งมี 3 วิธีคือ
การนำเส้นเลือดดำต่อกับเส้นเลือดแดงบริเวณแขนหรือเรียกว่าการทำ AV fistula เพื่อให้เส้นเลือดดำใหญ่ขึ้น และมีแรงดันพอที่จะทำให้เลือดไหลเข้าสู่เครื่องไตเทียมได้
การต่อเส้นเลือดดำกับเส้นเลือดแดงของผู้ป่วยโดยการใช้เส้นเลือดเทียมหรือ AV graft การใส่สายเข้าไปในเส้นเลือดดำขนาดใหญ่เพื่อใว้สำหรับต่อกับเครื่องไตเทียม วิธีการนี้เป็นการทำแบบชั่วคราว
2.การฟอกไตทางช่องท้องแบบถาวร
การฟอกไตทางช่องท้องแบบถาวรคือ การล้างช่องท้องด้วยน้ำยาเพื่อกรองของเสียในร่างกายออกโดยการใส่น้ำยาเข้าไปในช่องท้องผ่านทางท่อ
ซึ่งท่อนี้ต้องทำการฝังเข้าไปในช่องท้อง วิธีนี้สามารถทำที่บ้านหรือที่ทำงานได้และต้องทำทุกวัน มีการเปลี่ยนน้ำยา 4–5 ครั้ง/วัน ผู้ป่วยสามารถเลือกเวลาทำเองได้ โดยผู้ป่วยหรือผู้ช่วยเหลือต้องเรียนรู้วิธีการทำด้วย
ค่ายากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงประมาณ 10,000 บาท / เดือน
รวม 120,000 บาท / ปี
ค่าใช้จ่ายรวมทีละประมาณ 5 – 6 แสนบาท / คน / ปี
สิ่งที่ดีที่สุด มาร่วมกันชะลอไตเสื่อมด้วยก
ต้องฟอกไตเดือนละกี่ครั้ง??
โดยปกติแล้วผู้ป่วยที่เป็นไรคไต มีภาวะไตวาย หรือไตเข้าสู่ระยะท้ายๆ แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยทำการฟอกไต ซึ่งการฟอกไตจะใช้เวลาคร้ังละประมาณ 4 ชั่วโมง และจะต้องทำเป็นประจำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะฟอกกี่ครั้ง ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ และการฟอกไต ต้องฟอกต่อเนื่องตลอดชีวิต จนกว่าจะสามารถเปลี่ยนถ่ายไตใหม่เข้าสู่ร่างกายได้
ระหว่างการฟอกไตคนไข้อาจเกิดอาการ คลื่นไส้ ปวดหัว ใจสั่นได้ ถ้ามีอาการเช่นนี้ ให้รีบแจ้งกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทันที
หลังฟอกไตอยู่ได้กี่ปี??
ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เนื่องจากผู้ป่วยโรคไตส่วนใหญ่ จะไม่ได้มีแค่โรคไตเพียงอย่างเดียว จะมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ อีก เช่น เบาหวาน, ความดัน, หัวใจ ซึ่งโรคเหล่านี้ก็มีอันตรายถึงชีวิตเช่นกัน
ปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากโรค ก็เช่น ผู้ป่วยมีอายุมากหรือน้อย คนไข้ได้ควบคุมอาหารเป็นอย่างดีหรือไม่ หรือว่ามีตัวช่วยพิเศษ อย่างสมุนไพรที่ช่วยทำให้เลือดสะอาด และช่วยเรื่อง เบาหวาน ความดัน หัวใจ อย่างยาน้ำสมุนไพร ธนทร ไปเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยหรือเปล่า
หากคุณได้ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี และไม่มีโรคแทรกซ้อน รวมถึงมีตัวช่วยเป็นสมุนไพรธนทร และไม่มีอาการผิดปกติเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยที่ฟอกไตก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็น 10 ปี
รีวิว จากผู้ที่ดื่ม ยาน้ำ สมุนไพร ธรรมชาติ ธนทร
**ผลลัพท์ที่ได้ อาจเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล**
**ผลลัพท์ที่ได้ อาจเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล**
**ผลลัพท์ที่ได้ อาจเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล**
สมุนไพรธนทรจะช่วยผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตได้อย่างไร?
สมุนไพรธนทร เป็นสมุนไพรสกัดเข้มข้นทั้งสมุนไพรจีนและสมุนไพรไทย โดยรวบรวมสมุนไพรกว่า 100 ชนิด รวบรวมไว้ในขวดเดียว ผ่านกระบวนการสกัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ได้รับมาตรฐาน อย.และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ฮาลาล จึงเชื่อมั่นได้ว่า ถึงแม้ว่าจะดื่มสมุนไพรธนทรเป็นเวลานานก็ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของไตอย่างที่หลายๆคนเป็นห่วงแน่นอน
เมื่อสมุนไพรเข้าไปในร่างกายจะเข้าไปฟื้นฟูและบำรุงไตให้มีความแข็งแรง จนสามารถทำงานได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าผู้ป่วยต้องฟอกไตไปแล้ว สมุนไพรธนทรก็จะเข้าไปช่วยฟื้นฟูระบบเลือดให้สะอาดมากขึ้น
จนทำให้การฟอกไตมีระยะห่างมากขึ้น เช่น จากผู้ที่ต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง เหลือเพียงเดือนละ 2-3 ครั้ง เรียกได้ว่าประหยัดเงินค่าฟอกไตไปได้มากเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังสงสัยว่า "คุณกำลังจะเป็นโรคไตอยู่หรือเปล่า"
โปรดสังเกตตัวเองดังนี้
1.มีอาการบวมตามร่างกาย
โดยเฉพาะการบวมที่บริเวณหนังตาหรือใบหน้าตอนเช้า เท้าบวมทั้งสองข้าง เมื่อกดที่หน้าแข้งทั้งสองข้างจะบุ๋มลงไป
ถ้าโรคไตที่เป็นมีอาการหนักมาก จะมีการบวมเกิดขึ้นทั้งตัว แต่อย่างไรก็ตามอาการบวมอาจไม่ได้เกิดจากโรคไตแต่อาจจะเกิดจากโรคอื่น เช่น โรคตับ โรคหัวใจ และอื่นๆก็เป็นได้
2. ปัสสาวะเป็นเลือด
ปกติคนที่ไม่เป็นโรคไต น้ำปัสสาวะจะไม่มีเม็ดเลือดออกมา หรือถ้ามีก็น้อยมาก ต้องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายปานกลางจึงจะพบเกล็ดเลือด และพบในปริมาณที่น้อยมากๆ
แต่ในรายที่เป็นโรคไตเสื่อม จะมีเลือดปนออกมากับปัสสาวะแบบเห็นได้ชัด สีปัสสาวะจะมีสีแดง หรือมีสีแบบน้ำล้างเนื้อ ถ้าปัสสาวะมีเลือดปน แสดงว่าคุณกำลังมีความเสียงที่จะเป็นไรคไตเสื่อม หรือไตกำลังมีปัญหาอยู่
3. มีปัสสาวะมีสีขุ่น
อาการปัสสาวะขุ่นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น มีเม็ดเลือดขาวหลุดออกมาเป็นจำนวนมากซึ่งแสดงถึงภาวะการอักเสบ มีเชื้อแบคทีเรีย
แสดงถึงภาวการณ์ติดเชื้อเกิดขึ้น เกิดตะกอนนิ่วในผู้ป่วยโรคนิ่ว หรือเกิดจากพวกผลึกคริสตัลต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระบบขับถ่าย หากต้องการทราบว่าเป็นอาการของไตอักเสบเรื้อรังหรือไม่ ต้องตรวจสอบปัสสาวะด้วยกล้องจุลทรรศน์
4. ปัสสาวะเป็นฟองมาก
ปกติเวลาปัสสาวะอาจจะมีฟองขาวบ้าง แต่ถ้าในปัสสาวะมีไข่ขาวรั่ว หรือโปรตีนออกมามาก จะทำให้ปัสสาวะเป็นฟองขาวๆ ได้มากเหมือนฟองสบู่
มากถึงขนาดที่เรากดชักโครกแล้ว ยังมีฟองหลงเหลืออยู่ ถ้ามีอาการแบบนี้ แสดงว่าคุณกำลังเป็นโรคไตรั่ว อยู่ก็เป็นได้ ซึ่งเป็นอาการบ่งชี้อย่างหนึ่งของการเป็นโรคไตเสื่อม
แต่หากมีอาการของโรคไตรั่ว คุณลองศึกษาสมุนไพรที่ช่วยโรคไตรั่วได้เลย >>คลิ้กที่นี่<<
5. มีอาการปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน
หากในช่วงเวลาที่เรานอนหลับ แล้วเราต้องตื่นมาปัสสาวะมากกว่า 1 ครั้ง แสดงว่าร่างกายเรา และระบบขับถ่ายมีปัญหา ส่วนใหญ่เกิดจากความเครียด กังวล นอนไม่หลับ
หรือเกิดจากโรคบางโรค เช่น เป็นโรคเบาหวาน เป็นนิ่วในไต จะมีแค่ส่วนน้อยที่มีสาเหตุมาจากโรคไต เช่น ไตวายเรื้อรัง แต่ก็ถือว่าเป็นข้อสังเกต หากเรามีการปัสสาวะบ่อย มันอาจหมายความว่า ไตเรากำลังมีปัญหาอยู่ก็เป็นได้
6. มีอาการปวดหลัง
โดยจะมีอาการปวดบริเวณเอวข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง หรือมีการปวดบริเวณสีข้าง อาจมีอาการปวดร้าวไปที่หัวเหน่า เกิดจากการที่ไตเราอักเสบ แล้วไตจะผลิตความร้อนออกมา ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการปวดขึ้นมา
หากมีอาการเหล่านี้ ให้รีบสำรวจตัวเอง แล้วปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทันที
ในกรณีที่การปวดเอว มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือกรวยไตอักเสบ จะมีไข้ หนาวสั่นร่วมด้วยซึ่งจะแตกต่างจากการปวดที่มาจากโรคไต
แต่อาการปวดหลัง ปวดเอว ส่วนใหญ่จะมาจากโรคทางกระดูกสันหลัง หรือกล้ามเนื้อบริเวณหลังเกิดอักเสบ ที่มาจากการยกของหนัก การออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวผิดท่า
7. มีความดันโลหิตสูง
โรคไตเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูง ที่พบบ่อยในกลุ่มที่ทำให้ความดันโลหิตสูง ที่มีสาเหตุมาจากโรคอื่น เมื่อพบว่ามีความดันโลหิตสูง เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการตรวจ เพื่อหาสาเหตุว่ามาจากปัจจัยใด
เพราะโรคไตก็เป็นเพียงสาเหตุหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้ความดันโลหิตสูง หากคุณมีความดันโลหิตที่สูง ให้รีบไปพบแพทย์ และรับการตรวจเพื่อหาว่า คุณเป็นโรคไต หรือมีโรคอื่นๆ อีกหรือไม่
8. มีอาการตัวซีดและอ่อนเพลีย
เมื่อเกิดโรคไตวายเรื้อรัง ไตจะไม่สามารถสร้างสารชนิดหนึ่งเพื่อไปกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดง จึงทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตตัวซีด เหลือง หรือมีอาการโลหิตจาง
และมักมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หน้ามืด เป็นลมบ่อยๆ หากมีอาการเหล่านี้ คุณอาจจะกำลังเป็นโรคไตเสื่อมอยู่ก็เป็นได้ ให้รีบทำการรักษากับแพทย์ หรือเลือกดื่ม ยาน้ำสมุนไพรธนทร เพื่อช่วยบรรเทาอาการ และฟื้นฟูบำรุงร่าง
9. มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเบื่ออาหาร
เป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อย ในผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง หรือไตเสื่อมขั้นรุนแรงแล้ว
10. มีอาการแน่นหน้าอก
เป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคไต เกิดจากอาการน้ำท่วมปอด เกิดจากไตไม่สามารถขับน้ำที่เป็นของเสีย ออกจากร่างกายได้ ทำให้ของเสียหรือน้ำเหล่านั้น ไม่ถูกขับออกทางปัสสาวะ
แต่กลับไปกองอยู่ตามร่างกายในบริเวณต่างๆ ทำให้เกิดอาการตัวบวม และทำให้มีน้ำหรือของเหลว หลุดเข้าไปในปอดของเรา
ทำให้มีอาการแน่นหน้าอก หายใจหอบเหนื่อย ปวดหน้าอก หรือมีอาการแน่นหน้าอก อาการคล้ายกับอาการหัวใจขาดเลือด หรืออาการของคนที่เป็นโรคหัวใจ และจะส่งผลทำให้หัวใจวายได้ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากโรคไตอีกต่อนึง
11. มีอาการ มือ เท้า ชา
เป็นภาวะแทรกซ้อน ซึ่งมีผลมาจากโรคเบาหวาน ซึ่งโรคเบาหวาน ก็จะมีแนวโน้มทำให้เป็นโรคไตตามมาได้ ฉะนั้น ผู้ที่มีอาการ มือ เท้า ชา ให้หมั่นสำรวจร่างกายตัวเอง และหมั่นไปพบแพทย์บ่อยๆ ก็จะช่วยให้ป้องกันการเป็นโรคไตได้
อยากทราบว่าโรคเบาหวานเกี่ยวข้องอย่างไรกับโรคไต อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย >>คลิ้กที่นี่<<
รู้อย่างนี้แล้วอย่ารอช้านะคะ ปัญหาสุขภาพรอไม่ได้คะ ลองปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญจาก “สมุนไพรธนทร” เรื่องปัญหาการฟอกไตดูได้นะคะ ไตดี สุขภาพดีคะ